สวัสดีค่ะ ^ ^ เนื่องจากบทความที่แล้ว แอดฯ ได้อธิบายเรื่องส่วนประกอบ, ชนิดของเบย์เบลด, และความแตกต่างระหว่างเบย์เบลดของแท้และของปลอมกันไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับบทความนี้ เราจะมาอธิบายถึงเรื่อง "การแข่งขัน และการนับคะแนน" กันบ้างดีกว่าค่ะ
ก่อนอื่น เรามารู้จักสนามเบย์เบลดกันก่อนค่ะ :)
📍 สนามเบย์เบลด ณ ปัจจุบัน มีอยู่ด้วยกัน 3 สนาม ได้แก่
1. สนามปกติ หรือ Beyblade X Stadium - เป็น สนามมาตรฐานที่ใช้ในงานแข่ง "บ่อยที่สุด" ไม่ว่าจะเป็นงาน G1, G2, G3 โดยสนามนี้จะเล่น หรือจัดแข่งได้ครั้งละ 2 คน
***เท่าที่ออกมาตอนนี้มีสนามทั้งหมด 6 สี***
(ปล: ไม่นับสนามสีใหม่ของเบย์เบลดรุ่น CX ที่กำลังจะออกมาในปลายเดือนมีนาคม 2025 นี้ ซึ่งจะมีอีก 1 สีใหม่ คือ สีขาว-ชมพู)
จากภาพด้านบน: สนามมาตรฐานสีดำ-เขียว (รหัส BX-17) เป็น Battle Entry Set ที่มาพร้อมกับเบย์ 2 ตัว คือ Dransword สีแดง และ Wizard Arrow สีน้ำเงิน+ที่ชู้ต 2 อันแบบสาย (Winder)
จากภาพด้านบน: สนามมาตรฐานสีใส-ดำ (รหัส BX-07) ชื่อ Start Dash Set มาพร้อม Dransword สีน้ำเงินแบบพิเศษและที่ชู้ตเชือก+ด้ามจับสีน้ำเงิน
และจะลืมเค้าไปไม่ได้เลย เซ็ตนี้จัดเป็นเซ็ตสนามที่คุ้มค่าที่สุดแล้วจริงๆ (เมื่อเค้าปรากฏตัวมา เซ็ทสนามอื่นๆ ก็ขายยากไปเลย 555)
จากภาพด้านบน .. นั่น คือ สนาม สีขาว-ส้ม (รหัส UX-04) เป็น Battle Entry Set U ที่มาพร้อมกับเบย์ 2 ตัว คือ Dran Buster และ Wizard Rod สีพิเศษ+ที่ชู้ตแบบสาย (Winder) 2 อัน .. ที่แอดฯ ว่า คุ้ม ก็เพราะว่า เป็นเบย์ที่ดีมากๆ และได้ใช้แน่ๆ ทั้ง 2 ตัวเลยค่ะ
ปล: อิ อิ ก่อนจะไปต่อ แอดฯ แอบเอาภาพสนามสีใหม่ รุ่น CX ที่กำลังจะออกมาใหม่เร็วๆ นี้ มาโชว์ยั่วน้ำลายเบลดเดอร์เล่นๆ ด้วยนะคะ 555+ (เห็น Xtreme Line สีชมพูเข้มๆ แบบนี้ แอดฯ ก็แทบอดใจไม่ไหว ขอเก็บตังแป้บ)
2. สนาม 3 คน หรือ Wide Xtreme Stadium (รหัส BX-32) - เป็นสนามที่เอาไว้ใช้แข่งทีม เล่นได้ครั้งละ 3 คน ดังแสดงในภาพ (ด้านล่าง) ค่ะ ลักษณะสนามจริงจะออกแนวยาวๆ รีๆ กว่าสนามมาตรฐานค่ะ
3. สนาม Double Xtreme Stadium (รหัส BX-37) - เป็นสนามแบบพิเศษที่ต้องใส่ถ่าน AA 3 ก้อน เพราะมี Xtreme Line วงกลมตรงกลางเพิ่มขึ้นมา เป็นสนามที่ใช้เล่น หรือจัดแข่งได้ครั้งละ 2 คน มาเป็นเซ็ทพร้อมกับเบย์เบลดชื่อ Bear Scratch 5-60 F+ที่ชู้ตแบบสาย 1 อัน ดังแสดงในภาพด้านล่างค่ะ
📍สำหรับการแข่ง Beyblade X หรือที่เราเรียกกันว่า Battle (“แบท-เทิ่ล”) เนี่ย ...
- ใน 1 เกม จะมีผู้เล่น 2 ฝั่งของสนาม
- โดยผู้เล่นแต่ละคนจะต้องเลือกเบย์มา 3 ตัวเรียงลำดับจากซ้ายไปขวา (โดยเบย์ตัวแรกจะอยู่ทางซ้ายสุดไล่ไปถึงขวาสุด) เมื่อเริ่มเกมการแข่งขันกับคู่ต่อสู้แต่ละคนแล้ว เราจะไม่สามารถสลับลำดับการเรียงเบย์ได้แล้วนะคะ ดังนั้น ต้องตัดสินใจให้ดีๆ ตั้งแต่ก่อนเริ่มแข่งค่ะ
- อ่อ อีกอย่าง แอดฯ แนะนำนิดว่า สำหรับผู้เข้าแข่งขันทุกท่าน ควรมีกล่องใส่เบย์ 3 ตัวที่ตนเลือกไว้ใช้แข่งหรือที่เรียกว่ากล่อง 3-On-3 ไว้ซะหน่อยก็ดี (จริงๆ จะเป็นกล่องอะไรก็ได้นะคะ ไม่ซีเรียส) เอาไว้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คู่ต่อสู้เห็นเบย์ของเราก่อนค่ะ (ไม่งั้นคู่ต่อสู้บางคนที่ไม่แฟร์ แอบมาดูคอมโบเราไว้ก่อน ก็อาจจะตั้งใจวางตัวที่มีความสามารถเหนือกว่าเอาไว้ดักทางเบย์แต่ละตัวของเราได้ เรียกว่าเอาตัวชนะทางกันมาสู้นั่นเองค่ะ 555+) แอดฯ เอาภาพตัวอย่างกล่อง 3-On-3 มาให้ดูนิดหน่อยค่ะ
***สำหรับเรื่องการนับคะแนน - ถ้าผู้เล่นคนใดสามารถทำคะแนนได้ถึง 4 แต้มก่อนก็จะเป็นฝ่ายชนะไปค่ะ***
ส่วนการนับคะแนนก็จะมีดังนี้ค่ะ
- ถ้าเราชนะโดยที่อีกฝั่งหยุดหมุนก่อนในสนาม จะเรียกว่า “ชนะสปิน” หรือ Spin Finish ได้ 1 คะแนน
- ถ้าเราชนะโดยที่อีกฝั่งเบย์แตกออกเป็นชิ้นส่วน เรียกว่า “เบิร์ส” หรือ Burst Finish ได้ 2 คะแนน
- ถ้าเราชนะโดยที่สามารถทำให้เบย์ของอีกฝั่งตกลงไปในหลุมซ้าย หรือขวาข้างใดข้างนึงก่อน เรียกว่า “โอเว่อร์” หรือ Over Finish ได้ 2 คะแนน (ตามภาพจะสังเกตได้ว่า ช่อง Over Finish จะมีอยู่ 2 ฝั่งค่ะ)
- ถ้าเราชนะโดยที่สามารถทำให้เบย์ของอีกฝั่งตกลงไปในช่องตรงกลางของสนามก่อนและไม่สามารถกลับมาได้ เรียกว่า “เอ็กซ์ตรีม” หรือ Xtreme Finish ได้ 3 คะแนน*** แน่นอนว่าชนะแบบนี้ .. มันที่สุดแล้วค่ะ แอดคอนเฟิร์ม 555+
เอาล่ะค่ะ บทความนี้ชักเริ่มยาว แอดฯ คงต้องขอลาไปชู้ตเบย์ก่อน พบกันใหม่บทความหน้าค่ะ บ๊ายบาย ^ ^ถ้าเบลดเดอร์ท่านใดสนใจเนื้อหาดีๆ ที่ทางเพจเรานำเสนอ ก็อย่าลืมกด Like เพจ หรือ กด "ติดตาม" เพจไว้ด้วยนะคะ 😆😆😆